เสื้อผ้าคือสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกน้อยของเราอย่างยิ่ง อาจจะกล่าวได้ว่าหากเด็กๆ มีเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับตนเองสวมใส่ก็ทำให้สุขภาพดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากเลือกเสื้อผ้าเด็กให้เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มีหลักเกณฑ์ในการเลือกอย่างไรบ้าง พร้อมแล้วมาดูกันเลย
1.ต้องเป็นผ้าคอตตอน 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับสิ่งแรกที่คุณแม่ควรมีหลักเกณฑ์ในการเลือกก็คือการใช้ผ้าคอตตอน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเป็นเนื้อผ้าที่มอบความอบอุ่นให้เด็กน้อยได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เนื้อผ้านิ่มนวล น่าสวมใส่ และที่สำคัญก็คือมีความคงทน ใช้ได้อย่างยาวนาน และไม่ทำให้ผิวที่บอบบางของเด็กเกิดความระคายเคืองได้ดีที่สุด อย่างไรก็ดีบางคนอาจจะคิดว่าผ้าคอตตอน 100 เปอร์เซ็นต์ยับง่าย รีดยาก แต่หากว่าไม่ทำให้ลูกมีผิวที่ระคายเคืองหรือว่าแพ้ง่าย ก็ต้องรีดจะดีที่สุด ซึ่งการรีดผ้า โดยปกติแล้วคุณแม่จะทำการรีดเสื้อในทุกวันอยู่แล้ว เพราะเป็นการฆ่าเชื้อโรคอย่างหนึ่งและการรีดผ้า ทำให้เส้นใยฟูนิ่ม ไม่อับชื้น
2.เสื้อผ้าควรที่จะสวมใส่ง่าย
ในยุคนี้คุณแม่นิยมเสื้อผ้าจัมพ์สูท เพราะเด็กๆ ใส่แล้วน่ารัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากว่าเป็นชุดจัมพ์สูทควรเลือกแบบที่มีกระดุมด้านล่างให้ถอดได้แบบง่ายดาย เพราะว่าการเปลี่ยนผ้าอ้อมคือภารกิจสำคัญในการดูแลลูกน้อยแต่ละวัน หากว่าเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ยากอาจจะทำให้เกิดผลเสีย เช่นเปลี่ยนแพมเพิสไม่ทัน หรือว่าอาจจะมีปัญหาอับชื้นได้นั่นเอง ที่สำคัญที่สุด ควรแน่ใจด้วยว่าคอเสื้อมีความยืดหยุ่น ถอดง่าย ไม่ดึงรั้งศีรษะของลูกเวลาถอดออก หรือหากไม่แน่ใจก็ควรเลือกแบบผ่าหน้า
3. เสื้อไม่มีอันตราย
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กัน ควรเลือกเชือกผูกมากกว่ามีซิปโลหะ ยางยืดหรือว่ากระดุม เพราะว่าอาจจะบาดบริเวณผิวหนังของลูกได้ เพราะวัสดุต่างๆ เหล่านี้นั่นเอง
4.ดูตะเข็บเสื้อ
สำหรับเสื้อที่ดี จะต้องมีตะเข็บแนบไปกับเนื้อผ้า และตรวจสอบตะเข็บก่อนซื้อจะดีกว่า การตรวจตะเข็บทำได้แบบง่ายดาย แค่กลับด้านเนื้อผ้าออกมาดู หรือนำมือเข้าไปที่ตะเข็บเพื่อตรวจสอบก็ได้เช่นกัน เพราะการที่เสื้อผ้ามีตะเข็บหนา อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองเวลาที่เด็กพลิกตัวทำให้ไม่สบายตัว
คุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์เวลาเห็นเสื้อผ้าเด็กมักจะอยากซื้อหาเป็นประจำ ซึ่งสิ่งที่สำคัญของการซื้อเสื้อผ้าเด็กไม่ได้มีแค่รูปแบบและลวดลายน่ารัก แต่สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อผ้าที่ดี เมื่อลูกใส่แล้วรู้สึกสบายตัวนั่นเอง